Conventure  รับสร้างบ้านสวย คุณภาพคุ้มค่า ราคายุติธรรม

22 JUN
10 วิธีดูแลบ้านช่วงฤดูฝน

10 วิธีดูแลบ้านช่วงฤดูฝน 

 

ในเวลาที่อากาศร้อนอบอ้าวจนแทบทนไม่ไหว คงไม่มีสิ่งใดจะช่วยคลายร้อนไปได้มากกว่าสายฝนชุ่มฉ่ำเย็น ๆ อีกแล้ว แต่สายฝนนี้เองก็มาพร้อมกับปัญหาต่าง ๆ ที่อาจสร้างความเสียหายให้กับบ้านและที่อยู่อาศัยได้ ดังนั้น Conventure จึงมี 10 วิธีดูแลบ้านช่วงฤดูฝนมาฝากทุกคนเพื่อให้คุณสามารถเตรียมพร้อมรับมือและแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในฤดูฝนนี้

 

 

  1. ตรวจหารอยร้าว 

สังเกตและตรวจหารอยร้าวหรือรอยรั่วซึมตามจุดเสี่ยงต่าง ๆ โดยเฉพาะหลังคา ฝ้าเพดาน ผนัง และบริเวณรอยต่อต่าง ๆ เช่น ช่องหน้าต่างและประตู ซึ่งคุณจะสังเกตเห็นร่องรอยของน้ำหรือคราบน้ำได้ไม่ยาก หากพบรอยร้าวหรือรอยรั่วซึมเหล่านี้ให้รีบทำการแก้ไขหรือติดต่อช่างที่มีความชำนาญเข้ามาตรวจดูปัญหาให้เร็วที่สุดก่อนจะทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา

 

  1. ทำความสะอาดรางน้ำฝน 

รางน้ำฝนที่ไม่ได้ใช้งานนาน ๆ อาจมีเศษใบไม้ กิ่งไม้ หรือขยะกองสุมอุดตันกีดขวางทางไหลของน้ำฝนได้ เมื่อฝนตกก็ทำให้น้ำเอ่อล้นและไหลย้อนเข้าตัวบ้านจนเกิดการรั่วซึม การเตรียมรางน้ำฝนให้พร้อมใช้งานจะช่วยระบายน้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันไม่ให้น้ำฝนตกลงรอบตัวบ้านจนกระเด็นเปรอะเปื้อนผนังและพื้น

 

  1. จัดการท่อระบายน้ำและบ่อดักขยะ 

เช่นเดียวกับรางน้ำฝน ท่อระบายน้ำและบ่อดักขยะก็มักเป็นส่วนที่มีเศษใบไม้ กิ่งไม้ เศษขยะ หรือโคลนเข้าไปสะสมอุดตันเช่นกัน ควรล้างและจัดการกับเศษขยะเพื่อเปิดทางเดินในการระบายน้ำ และป้องกันไม่ให้เกิดน้ำขังได้

 

 

  1. ตัดแต่งกิ่งไม้ใหญ่ 

แม้ต้นไม้ใหญ่จะช่วยให้บ้านร่มเงาและน่าอยู่ แต่ก็อาจสร้างความเสียหายให้กับตัวบ้านและเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยได้ โดยเฉพาะเมื่อมีลมกรรโชกแรงหรือเกิดพายุฝนตกหนัก ลมอาจทำให้กิ่งไม้ใหญ่หักโค่นทับตัวบ้านหรือสมาชิกในครอบครัว ดังนั้น ควรตัดแต่งกิ่งไม้หรือต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ติดกับหลังคาบ้านและตัวบ้านเพื่อช่วยป้องกันเหตุไม่คาดคิด

 

  1. ตรวจสอบระบบไฟฟ้า 

ปัญหาไฟช็อต ไฟดูดเป็นอีกหนึ่งอันตรายที่มักพบในหน้าฝนและเป็นจุดเล็ก ๆ ที่หลาย ๆ บ้านมองข้าม โดยเฉพาะกับปลั๊กไฟ สวิตช์ไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่ติดบริเวณประตูหรือหน้าต่างที่เสี่ยงต่อการโดนละอองฝน หากเป็นไปได้ก็อาจย้ายที่หรือหาวัสดุกันน้ำมาคลุมเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ ส่วนปลั๊กหรือสวิตช์ไฟก็สามารถหาอุปกรณ์ป้องกันมาปิดไว้หรือเปลี่ยนไปใช้ปลั๊กที่มีฝาครอบเปิด-ปิดก็จะช่วยให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น

 

  1. ต่อเติมชายคาหรือกันสาด 

น้ำฝนมักจะไหลย้อนเข้ามาทางรอยต่อประตู หน้าต่างบริเวณผนัง การต่อเติมชายคาหรือกันสาดบริเวณประตูบ้าน หน้าต่าง ผนัง หรือส่วนที่ฝนสาดถึงจะช่วยป้องกันละอองฝนที่สาดเข้าสู่ตัวบ้านและช่วยลดปัญหาคราบน้ำ เชื้อรา ตะไคร่น้ำ รวมทั้งป้องกันอุปกรณ์ภายในบ้านและวัสดุบ้านไม่ให้เสียหาย

 

  1. ย้ายเฟอร์นิเจอร์สนาม 

แม้เฟอร์นิเจอร์สนามจะได้รับการออกแบบให้ทนน้ำ ทนแดดได้ดีระดับหนึ่ง แต่ในช่วงหน้าฝน เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ก็คงไม่อาจต้านทานลมฝนที่โหมกระหน่ำหรือทนเปียกน้ำเป็นเวลานาน ๆ ได้ การหาผ้าใบพลาสติกมาคลุมหรือการย้ายเฟอร์นิเจอร์สนามเข้าสู่ในร่มชั่วคราวจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้

 

 

  1. ขัดพื้น 

ความชื้นหรือน้ำฝนที่ท่วมขังเจิ่งนองนำมาซึ่งเชื้อราหรือตะไคร่น้ำ และทำให้พื้นบ้านไม่น่ามองและนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุอย่างการลื่นล้มได้ การขัดพื้นเป็นประจำจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราหรือตะไคร่น้ำสะสมจนพื้นลื่น ช่วยป้องกันอุบัติเหตุและการลื่นหกล้มและทำให้บ้านดูสดใสขึ้น

 

  1. ทาสีบ้าน

สีทาบ้านที่เริ่มหลุด ลอกร่อน นอกจากจะทำให้บ้านดูเก่าและโทรมแล้ว ยังอาจทำให้ความชื้นซึมเข้าสู่ตัวบ้านได้ง่าย ๆ การทาสีบ้านใหม่จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยรับมือกับฝน และหากเป็นไปได้ ควรเลือกใช้สีทาภายนอกคุณภาพดีที่มีคุณสมบัติในการป้องกันความชื้น เชื้อรา และทำความสะอาดได้ง่าย ก็จะช่วยให้บ้านไม่เก่าเร็ว

 

  1. ดูแลรักษางานไม้ 

ฝนและความชื้นถือเป็นศัตรูตัวฉกาจกับงานไม้ อาทิ บาน ประตู หน้าต่าง หรือระเบียงที่ทำจากไม้ เนื่องจากฝนอาจทำให้งานไม้เหล่านี้พองตัวจนเสียรูปหรือเกิดเป็นคราบเชื้อราได้ หลังฝนตกจึงควรเช็ดให้แห้ง หรือทาสีกันน้ำหรือน้ำยาป้องกันความชื้นเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ละอองฝนหรือความชื้นซึมเข้าสู่ตัวไม้

 

และนี่ก็คือ 10 วิธีดูแลบ้านช่วงฤดูฝนที่คุณเองก็ทำได้ แม้หน้าฝนจะเป็นฤดูที่ใครหลาย ๆ คนกังวล แต่การดูแลบ้านอย่างถูกวิธีตามแนวทางที่เราได้ให้ไว้ข้างต้นนี้ก็จะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวบ้านและช่วยให้บ้านดูสะอาด น่าอยู่ยิ่งขึ้นอีกด้วย

สอบถามข้อมูลการให้บริการรับสร้างบ้านกับ Conventure ได้ที่

Tel: 02 046 0300 – 3 ต่อ 11

Line ID: @conventure (มี @ นำหน้า)

Link: https://www.conventure.co.th/